รวม 150 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานสั้นๆง่ายๆ ที่ใช้พูดในชีวิตประจำวัน
รวม 150 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานสั้นๆง่ายๆ ที่ใช้พูดในชีวิตประจำวัน
เริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีพื้นฐานก็พูดได้! : ฝึกพูด ประโยคภาษาอังกฤษ พื้นฐาน เน้นสั้นง่ายนำไปใช้ได้จริง ไม่ซับซ้อน เพื่อการสื่อสารที่เข้าใจกัน อยากพูดได้ง่ายๆคือ ต้องหัดพูด เริ่มฝึกพูดประโยคภาษาอังกฤษ พื้นฐานก่อน แม้ไม่มีพื้นฐานก็ฝึกพูดได้ ดังนั้น 150 ประโยคนี้เหมาะมากสำหรับใครที่กำลังเริ่มหัดพูดภาษาอังกฤษ เป็นบทสนทนาเริ่มต้นเบื้องต้น เพื่อนำเราไปสู้การพูดคุยที่มากขึ้น จากการฝึกพูดภาษาอังกฤษพื้นฐาน จะนำคุณไปสู่บทสนทนาที่มากขึ้นๆในขั้นต่อๆไป เพื่อการฝึกพูดประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน ขอแบ่งบทสนทนาเบื้องต้นเป็น 9 สถานการณ์นะคะดังนี้ ทักทาย แนะนำตัวขอบคุณ ขอบโทษ แสดงความยินดี ถามเมื่อไม่เข้าใจหรือฟังไม่ทัน เปิดประเด็นชวนคุยโดยการถามงานอดิเรก บอกลาก่อนจบการสนทนา และวลีสั้นๆที่ใช้บ่อย
1. ทักทาย (26)
Hello. | สวัสดี |
Hi. | หวัดดี |
Good morning. | สวัสดี (ตอนเช้า) |
Good afternoon. | สวัสดี (ตอนบ่าย) |
Good evening. | สวัสดี (ตอนเย็น ตอนค่ำ) |
It's nice to see you again. | ดีจังที่ได้เจอกันอีก |
It's nice seeing you. | ดีจังที่ได้เจอคุณ |
Nice to meet you. | ดีจังที่ได้พบกัน ยินดีที่รู้จัก |
Long time no see. | ไม่ได้เจอกันนานเลย |
Long time no talk. | ไม่ได้คุยกันนานเลยนะ |
Yes, it has. | ใช่ นานละ |
How are you? | เป็นไงบ้าง |
How are you doing? | เป็นไงบ้าง |
How's it going? | เป็นไงบ้าง |
Hey you. | ไงแก (น้ำเสียงแบบทักทาย) |
How have you been? | เป็นยังไงบ้าง (หลังจากไม่ได้เจอกันสักระยะหรือนาน) |
I’m good. | สบายดี ก็ดีอ่ะ |
Pretty good. | สบายดี ก็ดีอ่ะ |
I'm doing well. | สบายดี |
I'm very well. | สบายดีมากๆเลย |
I'm fine, thanks. | สบายดี ขอบคุณนะ |
I’m OK. | ก็โอเค |
Not too bad. | ก็ไม่แย่เท่าไหร่ |
Not bad. | ก็ไม่แย่นะ |
I'm a bit tired. | เพลียๆนิดหน่อย |
Not very well. | ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ |
2. แนะนำตัว (5)
My name is ..... | ฉันชื่อ ..... |
My nickname is .... | ชื่อเล่นของฉันคือ ..... |
You can call me ..... | เธอเรียกฉันว่า .... ก็ได้ |
I’m ... years old. | ฉันอายุ ..... ปี |
I work at ...... | ฉันทำงานอยู่ที่..... |
3. ขอบคุณ (11)
Thank you. | ขอบคุณ |
Thanks. | ขอบคุณ |
Thanks a lot. | ขอบคุณมากๆ |
Thank you very much. | ขอบคุณมากๆ |
Thanks for your help. | ขอบคุณที่คุณช่วยเหลือนะ |
I really appreciate it. | ขอบคุณมากจริงๆ (ซาบซึ้ง) |
That's so kind of you. | คุณใจดีมากเลย (ขอบคุณ) |
You’re welcome. | ไม่เป็นไร (ยินดีทำให้) |
My pleasure. | ยินดีจ้า |
I'm glad to do it. | ยินดีทำให้ |
It's nothing. | ไม่เป็นไร |
4.ขอโทษ (16)
I'm sorry. | ฉันขอโทษ |
I'm really sorry. | ฉันขอโทษจริงๆ |
I'm so sorry. | ฉันขอโทษจริงๆ |
I’m sorry for what I did. | ฉันขอโทษสำหรับสิ่งที่ทำลงไป |
I’m sorry for being late. | ฉันขอโทษที่มาสายนะ |
I'm sorry to bother you. | ฉันขอโทษที่รบกวนคุณ |
I didn’t mean. | ฉันไม่ได้ตั้งใจ |
I didn’t mean to hurt you. | ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำคุณเจ็บ |
I didn’t mean to interrupt. | ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะขัดจังหวะ |
I didn't mean to startle you. | ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้คุณตกใจ |
No problem. | ไม่มีปัญหา |
It's not a problem. | มันไม่ใช่ปัญหา |
No worries. | ไม่ต้องคิดมาก |
No big deal. | ไม่ใช่เรื่องใหญ่ |
It's not a big deal. | ไม่ใช่เรื่องใหญ่ |
It’s okay. | ไม่เป็นไร |
5. แสดงความยินดี (10)
I'm glad to hear that. | ฉันดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น |
I'm so glad to hear that. | ฉันดีใจจังที่ได้ยินอย่างนั้น |
That's fantastic news! | นั้นข่าวดีสุดๆไปเลย |
I'm so happy for you." | ฉันดีใจด้วยนะ |
Great job! | เก่งมากเลย |
I knew you could do it! | ฉันรู้ว่าคุณจะต้องทำได้ |
That's amazing! | นั้นมันเยี่ยมมากเลย |
Excellent news! | ข่าวดีมากๆเลย |
Congratulations. | ยินดีด้วย |
Well done. | เก่งมาก ทำได้ดีมาก |
6.ถามเมื่อไม่เข้าใจ ฟังไม่ทัน (23)
I'm sorry, I missed that. | ขอโทษค่ะ ฉันฟังไม่ทัน |
Sorry, what was that? | ขอโทษค่ะ คืออะไรนะคะ |
I missed what you said. | ฉันฟังที่คุณพูดไม่ทัน |
Sorry, I didn't hear you. | ขอโทษ ฉันไม่ได้ยินคุณ |
Say it again, please? | พูดอีกทีได้ไหม |
I'm sorry, what did you say? | ขอโทษค่ะ คุณพูดว่าอะไรนะ |
I didn't hear you clearly. | ฉันได้ยินไม่ชัด |
Sorry, can you say it louder? | ขอโทษ พูดดังอีกได้ไหม |
I didn't quite hear you. | ฉันไม่ค่อยได้ยินคุณ |
I didn't hear what you said. | ฉันไม่ได้ยินที่คุณพูด |
I'm sorry, I missed that. | ขอโทษนะ ฟังไม่ทัน |
You are speaking too fast. | คุณพูดเร็วเกินไป |
Slow down please. | ช้าลงหน่อย |
Please speak more slowly. | ช่วยพูดให้ช้าลงหน่อย |
Could you speak slower? | ช่วยพูดให้ช้าลงหน่อยได้ไหม |
What does it mean? | มันแปลว่าอะไร |
What does dude mean? | dude แปลว่าอะไร |
What do you mean? | คุณหมายความว่ายังไงนะ |
What do you mean by that? | คุณหมายความว่ายังไงนะ |
Can you explain what you just said? | คุณช่วยอธิบายที่พูดเมื่อกี๊หน่อยได้ไหม |
I get it. | ฉันเข้าใจละ |
I understand. | ฉันเข้าใจละ |
I don't understand. | ฉันไม่เข้าใจ |
7. เปิดประเด็นชวนคุยโดยการถามงานอดิเรก (15)
What's your favorite hobby? | งานอดิเรกที่คุณชอบคืออะไร |
My favorite hobby is reading. | งานอดิเรกที่ฉันชอบคือการอ่านหนังสือ |
Why do you like reading? | ทำไมถึงชอบอ่านหนังสือล่ะ |
What kind of books do you enjoy reading? | คุณชอบอ่านหนังสือประเภทไหน |
I love reading mysteries and thrillers. | ฉันชอบอ่านเรื่องลึกลับและระทึกขวัญ |
Do you like watching movies? | คุณชอบดูหนังไหม |
Yes, I love watching movies | ชอบ ฉันชอบดูหนัง |
Why do you like watching movies? | ทำไมคุณถึงชอบดูหนัง |
It's a fun way to relax and unwind. | เป็นวิธีที่สนุกในการพักผ่อนและผ่อนคลาย |
I like listening to music. | ฉันชอบฟังเพลง |
Why do you like listening to music? | ทำไมคุณถึงชอบฟังเพลง |
What do you like to do in your free time? | คุณชอบทำอะไรในเวลาว่าง |
I like to play video games. | ฉันชอบเล่นวิดีโอเกม |
Why do you like playing video games? | ทำไมคุณจึงชอบเล่นวิดีโอเกม |
It's fun. | มันสนุกดี |
8. บอกลาก่อนจบการสนทนา (12)
It’s time to go. | ถึงเวลาต้องไปแล้ว |
I'd better go. | ฉันต้องไปแล้ว ฉันไปก่อนดีกว่า |
Bye. | บาย ไปละ (ลาก่อน) |
Goodbye. | ลาก่อน |
Good night. | ราตรีสวัสดิ์ |
See you soon. | แล้วเจอกันนะ |
See you. | แล้วเจอกันนะ |
See you later. | แล้วเจอกันนะ |
Have a nice day. | ขอให้เป็นวันที่ดีนะ |
Have a good time. | ขอให้เป็นวันที่ดีนะ |
Take care. | ดูแลตัวเองนะ |
Take care of yourself. | ดูแลตัวเองนะ |
9.วลีสั้นๆที่ใช้บ่อย (45)
Be my guest. | เชิญเลย ตามสบายเลย |
Be quiet. | อย่าส่งเสียงดัง เงียบๆ |
What’s going on? | เกิดอะไรขึ้น |
Almost done. | เกือนเสร็จแล้ว |
Almost there. | เกือบถึงแล้ว |
Let me think about it. | ขอฉันคิดดูก่อนนะ |
Hold on. | เดี๋ยวก่อน รอก่อน |
Can I see? | ขอดูได้ไหม |
Can I have some more? | ขอเพิ่มอีกหน่อยได้ไหม |
Again please. | ขออีกทีนะ |
More please. | ขออีกนะ |
Be careful driving. | ขับรถระวังๆนะ |
Get in this car. | ขึ้นรถเลย |
Get it? | เข้าใจไหม |
I guess so. | คงว่าคงงั้นมั้ง |
Are you kidding me? | คุณกำลังล้อฉันเล่นหรอ |
Do you get it? | คุณเข้าใจไหม |
Can you hear me? | คุณได้ยินฉันไหม |
Do you need help? | คุณต้องการให้ช่วยไหม |
Poor you! | คุณน่าสงสารจัง |
You're a pro! | คุณเป็นมืออาชีพ |
You're a genius! | คุณมันอัจฉริยะ |
How did you know? | คุณรู้ได้ไง |
How do you know? | คุณรู้ได้ไง |
What do you mean? | คุณหมายความว่าอย่างไร |
Did you mean this? | คุณหมายถึงนี่ใช่มั้ย |
Do you see? | คุณเห็นรึป่าว? |
There you are! | คุณอยู่ที่นี่เอง |
Just teasing. | แค่แซวเล่นนะ |
Just a little. | แค่นิดหน่อย |
Just joking. | แค่ล้อเล่นนะ |
Just kidding | แค่ล้อเล่นนะ |
Just for fun. | แค่สนุกๆ ขำๆ |
Really? | จริงหรอ |
keep an eye on it. | จับตาดู |
Keep your eyes on it. | จับตาดูให้ดี |
Hold my hand. | จับมือฉันไว้ |
Mark my words! | จำคำพูดของฉันไว้นะ |
Calm down. | ใจเย็นๆ |
Take a chill pill. | ใจเย็นๆ |
Take it easy. | ใจเย็นๆ สบายๆ |
I think so too. | ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน |
I can’t say for sure . | ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร |
I think so. | ฉันก็ว่าอย่างนั้นละมั้ง |
Hope so. | ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น |
I hope so. | ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น |